อาการบ้านหมุน เวียนหัว พะอืดพะอม เกิดจากอะไร? รวมวิธีบรรเทาและดูแลตัวเองเบื้องต้น

เวียนหัว บ้านหมุน
อาการ บ้านหมุน หรือความรู้สึกเหมือนสิ่งรอบตัวหมุนไปมา เป็นอาการเวียนหัวรูปแบบหนึ่งที่หลายคนเคยประสบและทำให้รู้สึกไม่มั่นคง เดินโคลงเคลง หรือพะอืดพะอมจนต้องหยุดกิจกรรมที่กำลังทำอยู่ทันที อาการนี้อาจเกิดขึ้นเพียงไม่กี่วินาที หรือกินเวลานานเป็นชั่วโมง โดยบางครั้งเกิดขึ้นแบบเฉียบพลันจนทำให้หลายคนรู้สึกกังวลว่า “อาการบ้านหมุนอันตรายไหม?” หรือ “เวียนหัวบ้านหมุนเกิดจากอะไร?”

ในบทความนี้ ห้าม้าโอสถ เราจะพาคุณทำความเข้าใจว่าอาการ เวียนหัว บ้านหมุนเกิดจาก สาเหตุใดบ้าง อาการที่ควรสังเกต วิธีบรรเทาที่สามารถทำได้ทันทีที่บ้าน และแนวทางดูแลตัวเองในเบื้องต้น พร้อมคำแนะนำว่า อาการบ้านหมุนหายเองได้ไหม และเมื่อไหร่ควรไปพบแพทย์ เพื่อให้คุณสามารถรับมือได้อย่างถูกต้อง ปลอดภัย และลดโอกาสเกิดซ้ำในอนาคต
คลิกเลือกอ่านหัวข้อ

บ้านหมุน คืออะไร?

บ้านหมุน (Vertigo) คืออาการเวียนหัวชนิดหนึ่งที่ทำให้รู้สึกเหมือนสิ่งรอบตัวกำลังเคลื่อนที่ หมุน หรือโคลงไปมา ทั้งที่จริงแล้วร่างกายไม่ได้ขยับเลย ผู้ที่มีอาการบ้านหมุนมักรู้สึกเสียการทรงตัว เดินไม่ตรง คลื่นไส้ หรือพะอืดพะอมร่วมด้วย ซึ่งต่างจากอาการเวียนหัวทั่วไปที่มักเป็นเพียงความรู้สึกโคลงเคลงหรือหน้ามืดเพียงชั่วคราว

ที่มาของน้ำมันสมุนไพรในประเทศไทย

เพื่อให้เข้าใจง่ายขึ้น สามารถแยกความต่างได้ดังนี้:

  • เวียนหัวทั่วไป (Dizziness):รู้สึกโคลงเคลง หน้ามืด ตาลาย เหมือนจะเป็นลม มักเกี่ยวข้องกับความดันต่ำ ขาดน้ำ หรือพักผ่อนไม่พอ
  • บ้านหมุน (Vertigo):รู้สึกเหมือนโลกหมุนรอบตัว หรือร่างกายหมุนเองอย่างควบคุมไม่ได้ บางครั้งรู้สึกเหมือนกำลังตกเหวหรือเสียการทรงตัวอย่างหนัก

เวียนหัว บ้านหมุน เกิดจากอะไร?

อาการบ้านหมุน

อาการ เวียนหัว บ้านหมุน สามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ โดยส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับความผิดปกติของระบบทรงตัวในหูชั้นใน แต่บางกรณีก็อาจมาจากระบบประสาท สมอง หรือปัจจัยทางกายภาพอื่น ๆ การทำความเข้าใจสาเหตุอย่างถูกต้องเป็นขั้นตอนสำคัญในการเลือกแนวทางบรรเทาและการดูแลตัวเองได้ตรงจุด

1. สาเหตุจากระบบหูชั้นใน (Peripheral Vertigo)

ระบบหูชั้นในคือศูนย์กลางสำคัญของการทรงตัว หากส่วนนี้เกิดความผิดปกติ ก็จะส่งผลให้เกิดอาการบ้านหมุนแบบเฉียบพลันได้ทันที สาเหตุที่พบได้บ่อย ได้แก่:

  • นิ่วในหูชั้นในหลุด (BPPV – Benign Paroxysmal Positional Vertigo):เป็นสาเหตุที่พบมากที่สุด มักเกิดจากการเปลี่ยนท่าทางเร็วเกินไป เช่น ลุกจากเตียง ก้มเงย ทำให้รู้สึกบ้านหมุนเป็นช่วงสั้น ๆ แต่เกิดซ้ำได้บ่อย
  • หูชั้นในอักเสบ (Labyrinthitis):เกิดจากการติดเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรีย ทำให้เกิดอาการบ้านหมุนร่วมกับการได้ยินลดลง
  • เส้นประสาทการทรงตัวอักเสบ (Vestibular Neuritis):เกิดจากการติดเชื้อไวรัสกระทบเส้นประสาทการทรงตัว ทำให้เวียนหัวอย่างรุนแรงและอาจนานหลายวัน
  • โรคน้ำในหูไม่เท่ากัน (Meniere’s Disease):เกิดจากน้ำในหูชั้นในผิดสมดุล ทำให้บ้านหมุนเป็นระยะ ๆ ร่วมกับหูอื้อ หรือเสียงดังในหู

2. สาเหตุจากระบบประสาทหรือสมอง (Central Vertigo)

อาการบ้านหมุนที่เกิดจากระบบประสาทส่วนกลางพบได้น้อยกว่า แต่สำคัญมากเพราะอาจเกี่ยวข้องกับภาวะที่ต้องดูแลอย่างเร่งด่วน สาเหตุที่อาจพบ ได้แก่:

  • โรคหลอดเลือดสมอง (Stroke):หากบ้านหมุนรุนแรงร่วมกับแขนขาอ่อนแรง พูดไม่ชัด หรือหน้าเบี้ยว ต้องรีบพบแพทย์ทันที
  • ไมเกรนชนิดเวียนหัว (Vestibular Migraine):ทำให้เกิดอาการเวียนหัว บ้านหมุน คลื่นไส้ โดยอาจไม่มีอาการปวดหัวร่วมก็ได้
  • เนื้องอกในสมอง (Brain Tumor):มีผลต่อระบบประสาทที่ควบคุมการทรงตัว แต่พบได้น้อยมาก
  • การบาดเจ็บที่ศีรษะ (Head Injury):ส่งผลต่อระบบทรงตัว ทำให้เกิดอาการเวียนหัวบ้านหมุนในระยะยาว

3. ปัจจัยเสริมอื่น ๆ ที่กระตุ้นอาการบ้านหมุน

นอกจากโรคหรือความผิดปกติแล้ว ยังมีหลายปัจจัยที่สามารถกระตุ้นให้เกิดอาการบ้านหมุนได้เช่นกัน ได้แก่

  • ความเครียดสูง:ส่งผลต่อระบบประสาท ทำให้ร่างกายตอบสนองผิดปกติ เกิดเวียนหัวหรือบ้านหมุนได้
  • พักผ่อนไม่เพียงพอ:ทำให้ระบบประสาทล้า กระทบการทรงตัว
  • ภาวะขาดน้ำ:เกิดจากดื่มน้ำน้อยหรือเสียเหงื่อมาก ทำให้เลือดไหลเวียนไม่ดี นำไปสู่อาการมึนเวียน
  • ความดันโลหิตต่ำหรือสูงผิดปกติ:ทำให้เลือดไปเลี้ยงสมองไม่พอ
  • ผลข้างเคียงจากยาบางชนิด:เช่น ยาความดัน ยากันชัก ยานอนหลับ

อาการบ้านหมุนหายเองได้ไหม?

หนึ่งในคำถามที่พบบ่อยที่สุดเมื่อเกิดอาการบ้านหมุนคือ “อาการแบบนี้จะ หายเองได้ไหม?” ขึ้นอยู่กับ “สาเหตุ” ผู้เชี่ยวชาญระบุว่าอาการบ้านหมุนบางประเภทสามารถทุเลาหรือหายเองได้ แต่บางกรณีก็จำเป็นต้องได้รับการประเมินจากแพทย์เพื่อความปลอดภัย

บ้านหมุนบางกรณีหายเองได้

อาการบ้านหมุนจาก BPPV (นิ่วในหูชั้นในหลุด) เป็นสาเหตุที่พบได้บ่อยมาก และมักดีขึ้นหรือหายเองได้เมื่อก้อนนิ่วเคลื่อนกลับสู่ตำแหน่งเดิม หรือเมื่อทำกายบริหารเฉพาะที่ช่วยปรับตำแหน่งนิ่ว เช่น Epley Maneuver นอกจากนี้อาการบ้านหมุนที่เกิดจากปัจจัยชั่วคราว เช่น ความเครียด, พักผ่อนน้อย, ภาวะอ่อนเพลีย, ขาดน้ำ เป็นต้น ก็มักจะทุเลาลงเองเมื่อร่างกายได้พักฟื้นมากพอ

อ่านบทความที่น่าสนใจต่อได้ที่ : 10 สมุนไพรช่วยลดความดันโลหิตสูง มีสรรพคุณแบบไหน รับประทานอย่างไร?

บ้านหมุน แก้ยังไง? รวมวิธีบรรเทาเบื้องต้น

เมื่อเกิดอาการบ้านหมุนหลายคนอาจรู้สึกตื่นตระหนกเพราะภาพรอบตัวหมุนจนทรงตัวไม่ได้ แต่ในความเป็นจริงมีหลายวิธีที่สามารถช่วยบรรเทาอาการในเบื้องต้นได้อย่างปลอดภัย การเข้าใจวิธีดูแลตัวเองอย่างถูกต้องจะช่วยลดความรุนแรงของอาการและป้องกันไม่ให้เกิดซ้ำบ่อย

1. วิธีดูแลตัวเองเมื่อเกิดอาการบ้านหมุน

  • หยุดกิจกรรมทันที:หยุดเดิน ขับรถ หรือทำงานที่ต้องใช้การทรงตัว เพราะอาจล้มและเกิดอุบัติเหตุได้
  • นั่งหรือนอนในท่าที่ศีรษะนิ่ง:เลือกท่านั่งหรือนอนตะแคงข้างที่สบายที่สุด เพื่อให้ระบบทรงตัวสงบ
  • หลีกเลี่ยงการเคลื่อนไหวศีรษะรวดเร็ว:เช่น การหันหน้าเร็ว ๆ หรือเปลี่ยนท่าทางกะทันหัน ซึ่งอาจกระตุ้นอาการบ้านหมุนให้รุนแรงขึ้น
  • จ้องมองวัตถุที่อยู่นิ่ง:เช่น มุมห้อง หรือกำแพง วิธีนี้ช่วยให้สมองตั้งหลักและลดอาการเวียนหัวได้
  • ดื่มน้ำให้เพียงพอ:ภาวะขาดน้ำเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้อาการเวียนหัวบ้านหมุนแย่ลง
  • พักผ่อนให้เพียงพอ:ระบบประสาทจะฟื้นตัวได้ดีขึ้นเมื่อร่างกายได้รับการพักอย่างเหมาะสม

2. สมุนไพรช่วยบรรเทาอาการบ้านหมุน

แม้สมุนไพรจะไม่ได้ช่วยรักษาอาการบ้านหมุนโดยตรง แต่สามารถช่วยลด คลื่นไส้ เวียนหัว พะอืดพะออม ได้ในระดับหนึ่งสมุนไพรที่ช่วยบรรเทา ได้แก่:

  • ขิง:มีงานวิจัยสนับสนุนว่าช่วยลดเวียนหัว คลื่นไส้ และอาการเมาเรือ สามารถดื่มน้ำขิง หรืออมขิงสดเล็กน้อยได้
  • สะระแหน่ / เปปเปอร์มิ้นต์:กลิ่นหอมช่วยเปิดทางเดินหายใจและลดความรู้สึกมึนงง
  • ยาดมสมุนไพรไทย: แม้ไม่ใช่การรักษา แต่ช่วยลดความอึดอัดและทำให้รู้สึกโล่งขึ้น

อาการบ้านหมุน แบบไหนควรพบแพทย์?

แม้อาการบ้านหมุน หรือเวียนหัวบ้านหมุน หลายครั้งจะเกิดขึ้นเพียงชั่วคราวและอาจดีขึ้นได้เอง แต่ก็มีบางกรณีที่สัญญาณอาการรุนแรงจนไม่ควรนิ่งนอนใจ การพบแพทย์อย่างทันท่วงทีอาจช่วยป้องกันภาวะแทรกซ้อน และช่วยให้ได้รับการรักษาที่ตรงจุดมากขึ้น สัญญาณสำคัญที่ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่า ควรรีบพบแพทย์โดยเร็วหากพบร่วมกับอาการบ้านหมุนได้แก่

1. อาการเวียนหัวบ้านหมุนเกิดซ้ำบ่อย

หากเกิดอาการบ้านหมุนบ่อยครั้ง เช่น สัปดาห์ละหลายครั้ง หรือเป็นซ้ำ ๆ ทุกเดือน อาจเป็นสัญญาณว่าระบบทรงตัวผิดปกติเรื้อรัง เช่น BPPV โรคน้ำในหูไม่เท่ากัน หรือปัญหาเกี่ยวกับระบบประสาท การประเมินสาเหตุโดยแพทย์จึงสำคัญอย่างมาก

2. มีอาการร่วมที่ต้องระวัง

หากมีอาการต่อไปนี้ร่วมกับอาการบ้านหมุน ควรพบแพทย์ทันที เพราะอาจเกี่ยวข้องกับระบบประสาทกลางหรือโรคหลอดเลือดสมอง หูอื้อ การได้ยินลดลง หรือมีเสียงดังในหู พูดไม่ชัด แขนขาอ่อนแรง หรือยกแขนไม่ขึ้น มองเห็นภาพซ้อนหรือมืดลงทันที อาการเหล่านี้ไม่ใช่ภาวะบ้านหมุนธรรมดา แต่เป็นสัญญาณเตือนของปัญหาที่รุนแรงกว่านั้น

3. เวียนหัวจนเดินไม่ได้ หรือมีอาการชัก

อาการเวียนหัวบ้านหมุนที่รุนแรงมากจน ไม่สามารถเดินได้ หรือต้องจับยึดทุกครั้งที่ลุกขึ้น เป็นสัญญาณความผิดปกติของสมองหรือระบบประสาท การได้รับการตรวจประเมินทันทีจะช่วยลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อน หากเกิด อาการชัก ร่วมด้วย ให้รีบไปโรงพยาบาลโดยด่วน

4. บ้านหมุนรุนแรงต่อเนื่องเกิน 7 วัน

อาการบ้านหมุนทั่วไป เช่น BPPV มักเกิดขึ้นระยะสั้นและดีขึ้นในไม่กี่วัน หากอาการยังคงรุนแรง นานต่อเนื่องเกิน 7 วัน อาจมีสาเหตุเฉพาะที่ต้องการการตรวจโดยแพทย์ เช่น ภาวะติดเชื้อระบบประสาท การอักเสบของเส้นประสาททรงตัว หรือปัญหาสมองส่วนควบคุมการทรงตัว

วิธีป้องกันและลดความเสี่ยงอาการบ้านหมุน

วิธีป้องกันและลดความเสี่ยงอาการบ้านหมุน

แม้อาการ บ้านหมุน หรือ เวียนหัวบ้านหมุน จะเกิดจากหลายสาเหตุ ทั้งระบบหูชั้นใน ระบบประสาท และปัจจัยเสริมต่าง ๆ แต่เราสามารถลดความเสี่ยงและป้องกันไม่ให้อาการเกิดซ้ำได้ด้วยการดูแลสุขภาพอย่างเหมาะสมในชีวิตประจำวัน แนวทางต่อไปนี้เป็นคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ ที่ช่วยให้ระบบทรงตัวทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ และลดโอกาสเกิดอาการบ้านหมุนได้อย่างเป็นธรรมชาติ

  • พักผ่อนให้เพียงพอ:การนอนหลับอย่างมีคุณภาพคือหัวใจสำคัญของการฟื้นฟูระบบประสาท หากพักผ่อนไม่พอ สมองและหูชั้นในอาจทำงานผิดปกติ ทำให้เกิดอาการเวียนหัวบ้านหมุนได้ง่ายขึ้น ควรนอนให้ได้วันละ 7–8 ชั่วโมงอย่างสม่ำเสมอ
  • ดื่มน้ำให้มาก:ภาวะขาดน้ำเป็นสาเหตุที่กระตุ้นการเวียนหัวและบ้านหมุนได้บ่อย เพราะทำให้การไหลเวียนเลือดไม่ดี ควรดื่มน้ำให้เพียงพออย่างน้อยวันละ 6–8 แก้ว หรือมากกว่านั้นหากออกกำลังกายหรือทำงานกลางแจ้ง
  • หลีกเลี่ยงความเครียด:ความเครียดส่งผลต่อระบบประสาทและการไหลเวียนเลือด ทำให้เกิดอาการเวียนหัวได้ โดยเฉพาะผู้ที่เคยมีอาการบ้านหมุนมาก่อน ควรหาวิธีผ่อนคลาย เช่น ฝึกหายใจลึก ๆ ทำสมาธิ นวดผ่อนคลาย เดินช้า ๆ
  • หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ คาเฟอีน และบุหรี่: สารเหล่านี้มีผลต่อระบบประสาทและการทำงานของหูชั้นใน ทำให้เกิดอาการเวียนหัวบ้านหมุนได้ง่ายขึ้น
  • ลุกขึ้นจากท่านั่งหรือนอนอย่างช้า ๆ: การเปลี่ยนท่าทางอย่างรวดเร็วคือสาเหตุหลักที่กระตุ้นอาการบ้านหมุน โดยเฉพาะในผู้ที่มีภาวะ BPPV หรือความดันต่ำ ควรลุกขึ้นทีละขั้น เช่น จากท่านอน ท่านั่งพัก 10–20 วินาที ค่อยลุกขึ้นยืน ช่วยลดโอกาสเกิดอาการบ้านหมุนเฉียบพลันได้มาก
  • ออกกำลังกายสม่ำเสมอเพื่อฝึกระบบทรงตัว: การออกกำลังกายที่เหมาะสมช่วยให้ระบบทรงตัว (Vestibular System) แข็งแรงและตอบสนองดีขึ้น เช่น เดินเร็ว โยคะ ไทชิ ท่าบริหารทรงตัวต่าง ๆ ว่ายน้ำ นอกจากช่วยลดโอกาสเกิดบ้านหมุนแล้ว ยังช่วยให้ร่างกายแข็งแรงโดยรวมอีกด้วย

หากคุณสนใจ ยาหอมสมุนไพรแบบเม็ดตราห้าม้า เรามีสินค้าพร้อมจำหน่าย และยินดีให้คำแนะนำเพิ่มเติม

สรุป บ้านหมุนไม่ใช่เรื่องเล็ก แต่ดูแลได้

อาการบ้านหมุน หรือ เวียนหัวบ้านหมุน อาจเกิดขึ้นแบบฉับพลันและสร้างความกังวลให้กับหลายคน แม้อาการส่วนใหญ่จะไม่อันตราย แต่ก็ไม่ควรมองข้าม เพราะอาจเป็นสัญญาณว่าระบบทรงตัวในหูชั้นใน หรือระบบประสาทกำลังทำงานผิดปกติ การรู้เท่าทันสาเหตุ วิธีบรรเทา และสัญญาณอันตราย เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้คุณรับมือกับอาการได้อย่างปลอดภัยและถูกต้อง

การดูแลเบื้องต้น เช่น การพักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำมาก ๆ หลีกเลี่ยงความเครียด และเคลื่อนไหวอย่างช้า ๆ สามารถช่วยลดความรุนแรงของอาการได้อย่างมาก ส่วนในกรณีที่อาการเกิดซ้ำ หรือมีอาการร่วมอื่น ๆ เช่น แขนขาอ่อนแรง พูดไม่ชัด หรือบ้านหมุนต่อเนื่องนานมากกว่า 7 วัน ควรรีบพบแพทย์เพื่อเข้ารับการวินิจฉัยอย่างละเอียด

หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพและสมุนไพรอย่างปลอดภัย Hamar รวบรวมความรู้และผลิตภัณฑ์ เพื่อสุขภาพที่คุณไว้วางใจ

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับอาการบ้านหมุน

หากลูกค้าท่านใดมีความสงสัยเกี่ยวกับ “อาการบ้านหมุน” เรารวบรวมทุกคำตอบมาให้แล้วที่นี่

Q: อาการ บ้านหมุน หาย เอง ได้ ไหม?

A: อาการบ้านหมุน สามารถหายเองได้ ในหลายกรณี โดยเฉพาะบ้านหมุนที่เกิดจาก BPPV (นิ่วในหูชั้นในหลุด) หรืออาการที่เกิดจากความเครียด พักผ่อนไม่พอ หรือร่างกายอ่อนล้า เมื่อร่างกายได้พักและระบบทรงตัวกลับสู่ภาวะปกติ อาการมักค่อย ๆ ดีขึ้นเอง แต่หากบ้านหมุนเกิดซ้ำบ่อย หายช้า หรือมีอาการรุนแรงร่วม เช่น แขนขาอ่อนแรง พูดไม่ชัด ควรรีบพบแพทย์เพื่อประเมินสาเหตุที่แท้จริง

Q: บ้านหมุน แก้ยังไง ให้หายเร็ว?

A: หากต้องการบรรเทาอาการบ้านหมุนให้เร็วที่สุด ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่าให้ทำตามขั้นตอน ดังนี้

  • หยุดกิจกรรมและนั่งหรือนอนนิ่ง ๆ
  • หลีกเลี่ยงการหมุนหรือหันศีรษะเร็ว
  • จ้องไปที่วัตถุที่อยู่กับที่ เช่น จุดบนกำแพง
  • ดื่มน้ำมาก ๆ หากสงสัยว่าร่างกายขาดน้ำ
  • พักผ่อนให้เพียงพอ
  • ทำกายบริหาร Epley Maneuver หากเป็นบ้านหมุนจาก BPPV

หากอาการไม่ดีขึ้น หรือเกิดซ้ำ ควรพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและการรักษาที่เหมาะสม

Q: เวียนหัว บ้านหมุน เกิดจาก ความเครียดได้ไหม?

A: ได้ ความเครียดเป็นปัจจัยสำคัญที่กระตุ้นให้เกิดอาการ เวียนหัว บ้านหมุนได้ ความเครียดทำให้ระบบประสาททำงานผิดสมดุล ส่งผลต่อการไหลเวียนเลือดและการควบคุมการทรงตัว นอกจากนี้ยังทำให้ร่างกายอ่อนล้า พักผ่อนไม่พอ และหายใจสั้น ซึ่งล้วนเป็นสาเหตุเสริมที่กระตุ้นอาการบ้านหมุนให้รุนแรงขึ้น หากเป็นบ้านหมุนจากความเครียด การพักผ่อน ทำสมาธิ และหลีกเลี่ยงสถานการณ์กดดันจะช่วยให้ดีขึ้นได้เร็ว

คลิกเลือกอ่านหัวข้อ
แบ่งปันสาระน่ารู้ทาง :

ผลิตภัณฑ์ของเรา

ยาหอมสมุนไพรเทพจิตรตราห้าม้าสรรพคุณแก้ลมบำรุงหัวใจ ขนาด 30 เม็ด
แก้ลม บำรุงหัวใจ

ยาหอมเทพจิตร ตราห้าม้า บรรจุ 30 เม็ด (24 หลอด/แพ็ค)

ยาดมสมุนไพรไทยตราแม่กุหลาบห้าม้าสรรพคุณแก้ลมวิงเวียน ขนาด 15 กรัม
แก้ลมวิงเวียน

ยาดมสมุนไพร ตราแม่กุหลาบห้าม้า ขนาด 15 กรัม

น้ำมันนวดสมุนไพรเสลดพังพอนตราแม่กุหลาบสรรพคุณบรรเทาแมลงกัดต่อย ขนาด 20 ซีซี
บรรเทาอาการแมลงกัดต่อย

ยาน้ำมันสมุนไพรผสมเสลดพังพอน ตราแม่กุหลาบ ขนาด 20 ซีซี

น้ำมันตราเลียงผาเเม่กุหลาบสรรพคุณคลายเส้น ขนาด 20 ซีซี
บรรเทาอาการปวดเมื่อยตามร่างกาย

ยาน้ำมันตราเลียงผา เเม่กุหลาบ ขนาด 20 ซีซี

สาระน่ารู้ที่น่าสนใจ

ปีนเขาสูงแล้วมีอาการวิงเวียน เกิดจากอะไร?

เปรียบเทียบยาครีมแก้ปวดเมื่อย สูตรเย็น VS สูตรร้อน เลือกแบบไหนให้เหมาะกับอาการ

20 สมุนไพรไทยประจำบ้าน ประโยชน์และสรรพคุณมากมายที่คุณอาจไม่เคยรู้