20 สมุนไพรไทยประจำบ้าน ประโยชน์และสรรพคุณมากมายที่คุณอาจไม่เคยรู้

สมุนไพรไทย 20 ชนิด พร้อมสรรพคุณที่ควรรู้
ปัจจุบันที่หลายคนเริ่มหันมาดูแลสุขภาพกันมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกาย หรือการรับประทานอาหารที่เป็นประโยชน์ แต่อีกทางหนึ่งที่หลายคนเลือกวิธีดูแลร่างกายก็เป็นรูปแบบธรรมชาติ ด้วย “สมุนไพรไทย” ไม่ว่าจะเป็นสมุนไพรที่ช่วยย่อยอาหาร แก้อักเสบ เสริมภูมิคุ้มกัน หรือบรรเทาอาการเจ็บป่วยเล็กน้อย สมุนไพรไทยหลายชนิดสามารถนำมาใช้ได้ง่าย สะดวก และปลอดภัย จึงไม่น่าแปลกใจที่คนมักตั้งคำถามว่า “สมุนไพรไทย มีอะไรบ้าง ที่ควรมีติดบ้าน?”

บทความนี้ ห้าม้าโอสถ จะพาคุณไปรู้จักกับ “สมุนไพรไทย 20 ชนิด” ที่ถือเป็นตัวช่วยประจำบ้าน พร้อมเจาะลึก ประโยชน์และสรรพคุณที่หลายคนอาจไม่เคยรู้มาก่อน ทั้งในด้านการบำรุงสุขภาพ การดูแลอาการไม่สบายเบื้องต้น รวมถึงบทบาทสำคัญในภูมิปัญญาแพทย์แผนไทย
คลิกเลือกอ่านหัวข้อ

สมุนไพรไทย คืออะไร?

สมุนไพรไทย คือ พืช เช่น ใบ ดอก ราก เหง้า หรือส่วนประกอบต่างๆจากสัตว์ หรือแร่ธาตุธรรมชาติที่นำมาใช้ เพื่อบำรุงร่างกาย รักษาอาการเจ็บป่วยเบื้องต้น หรือใช้ประกอบอาหารให้เกิดประโยชน์ต่อสุขภาพ สมุนไพรไทยมีต้นกำเนิดมาจากภูมิปัญญาพื้นบ้านที่สืบทอดกันมาหลายร้อยปี และถูกบันทึกไว้ในตำรับยาไทยอย่างเป็นระบบ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงคุณค่าด้านการแพทย์และความปลอดภัยเมื่อใช้ได้อย่างถูกต้อง

จุดเด่นของสมุนไพรไทยคือ เป็นของใกล้ตัว หาได้ง่าย ราคาไม่แพง และมีสรรพคุณหลากหลาย ทั้งช่วยย่อยอาหาร ขับลม บรรเทาการอักเสบ เสริมภูมิคุ้มกัน หรือใช้เป็นยาทาภายนอก เพื่อคลายปวดเมื่อย จึงไม่แปลกที่หลายบ้านยังคงมีสมุนไพรติดครัวไว้เสมอ

เมื่อถามว่า สมุนไพรแก้หวัด ผู้เชี่ยวชาญมักยกตัวอย่างสมุนไพรพื้นฐานที่คนไทยคุ้นเคย เช่น ขิง ข่า ตะไคร้ ไพล ฟ้าทะลายโจร กระชาย หอมแดง หรือขมิ้นชัน ซึ่งแต่ละชนิดล้วนมีงานวิจัยรองรับและถูกจัดอยู่ในกลุ่ม สมุนไพรไทย 20 ชนิด ที่ควรมีติดบ้าน เนื่องจากสามารถใช้บรรเทาอาการเจ็บป่วยเล็กน้อยได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย

ทำไมต้องรู้จัก “สมุนไพรไทย 20 ชนิด” ?

การรู้จักสมุนไพรไทย 20 ชนิด ที่พบได้บ่อยในชีวิตประจำวัน ถือเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับการดูแลสุขภาพทั้งในแบบป้องกัน และบรรเทาอาการเบื้องต้น สมุนไพรไทยจำนวนมากมีฤทธิ์ทางยาที่อ่อนโยน ปลอดภัย และสามารถใช้ร่วมกับวิถีชีวิตประจำวันได้อย่างง่ายดาย จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมครัวไทยและบ้านไทยเกือบทุกหลังมักมีสมุนไพรติดไว้เสมอ

ความสำคัญต่อสุขภาพและการป้องกันโรค

สมุนไพรไทยหลายชนิดมีสารสำคัญที่ช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน ต้านการอักเสบ หรือช่วยลดอาการเจ็บป่วยที่พบบ่อย เช่น ท้องอืด ไอ เจ็บคอ หรืออาการปวดเมื่อยเล็กน้อย การรู้จักสมุนไพรไทยอย่างถูกต้องจึงช่วยให้คุณสามารถเลือกใช้ได้เหมาะสมกับอาการ และช่วยลดความจำเป็นในการใช้ยาเคมีในบางกรณี นอกจากนี้หลายชนิดยังมีสรรพคุณที่เกี่ยวกับการป้องกันโรค เช่น การต้านอนุมูลอิสระ ลดการเสื่อมของเซลล์ และสนับสนุนระบบย่อยอาหาร ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของปัญหาสุขภาพในชีวิตประจำวัน

สมุนไพรไทย ใช้ได้ทั้งรับประทาน นำมาประคบ หรือนวด

หนึ่งในข้อเด่นสำคัญของ สมุนไพรไทย คือความอเนกประสงค์ สามารถใช้ได้หลากหลายวิธี ได้แก่

  • รับประทานสดหรือปรุงอาหาร: เพื่อช่วยย่อย ขับลม หรือต้านการอักเสบ เช่น ขิง ข่า ตะไคร้
  • ต้มน้ำดื่มหรือชงชา: เช่น ฟ้าทะลายโจร ใบเตย
  • ใช้ทำลูกประคบ: เช่น ไพล ขมิ้นชัน ช่วยคลายกล้ามเนื้อ
  • ใช้นวดหรือทาภายนอก: เช่น น้ำมันสมุนไพรจากไพล หรือการบูร

สมุนไพรไทย 20 ชนิด พร้อมสรรพคุณที่ควรรู้

สมุนไพรไทยประจำบ้าน

สมุนไพรไทยถือเป็นภูมิปัญญาที่ตกทอดมาช้านาน และหลายชนิดก็มีงานวิจัยรองรับสรรพคุณทางยา สามารถใช้ดูแลสุขภาพในชีวิตประจำวันได้อย่างปลอดภัย หากเข้าใจวิธีใช้ที่ถูกต้อง ด้านล่างนี้คือ สมุนไพรไทย 20 ชนิด ที่ควรมีติดบ้าน พร้อม สรรพคุณเด่น ของแต่ละชนิด ซึ่งตอบโจทย์ทั้งการดูแลสุขภาพพื้นฐาน การบรรเทาอาการเจ็บป่วยเล็กน้อย และการใช้ในครัวเรือน

1. ขิง

ช่วยขับลม แก้ท้องอืด คลื่นไส้ อาเจียน และช่วยให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการแน่นท้องและระบบย่อยทำงานไม่ดี

2. ข่า

ลดการอักเสบ ต้านแบคทีเรีย ช่วยบรรเทาอาการปวดท้องจากอาหารเป็นพิษ เหมาะสำหรับใช้ปรุงอาหารหรือชงดื่มคลายอาการท้องเสียเล็กน้อย

3. ตะไคร้

ช่วยขับลม ลดบวมน้ำ ช่วยให้ปัสสาวะดีขึ้น และช่วยผ่อนคลาย เหมาะสำหรับทำชาเพื่อดีท็อกซ์หรือประกอบอาหาร

4. ไพล

ลดอาการฟกช้ำ ปวดเมื่อย บวม เคล็ดขัดยอก เหมาะสำหรับใช้เป็นน้ำมันนวดหรือประคบสมุนไพร

5. กระชาย

ช่วยบำรุงกำลัง ขับลม ต้านการอักเสบ และช่วยระบบย่อยอาหาร เหมาะสำหรับทำชาดื่มหรือรับประทานสดในปริมาณเหมาะสม

6. ฟ้าทะลายโจร

ลดไข้ แก้เจ็บคอ ลดอาการหวัด ต้านเชื้อไวรัสและแบคทีเรียบางชนิด เหมาะสำหรับใช้เมื่อเริ่มมีอาการไม่สบาย

7. ใบมะกรูด

ช่วยย่อย ลดกลิ่นคาว ฆ่าเชื้อโรคบางชนิด เหมาะสำหรับใช้ประกอบอาหารและชงน้ำดื่ม

8. ใบโหระพา

ช่วยขับลม ลดแน่นท้อง ต้านอนุมูลอิสระ เหมาะสำหรับทานสดหรือใส่ในอาหารเพิ่มกลิ่นหอม

9. กะเพรา

แก้ท้องอืด จุกเสียด ช่วยย่อยอาหาร เหมาะสำหรับทำอาหารหรือชงดื่มแก้ท้องแน่น

10. มะขามป้อม

วิตามินซีสูง เสริมภูมิคุ้มกัน ลดอาการไอและเจ็บคอ เหมาะสำหรับกินสด ชงชา หรือนำไปทำสมุนไพรไทยต่าง ๆ

11. ขมิ้นชัน

ช่วยลดกรดไหลย้อน แก้ท้องเฟ้อ ต้านการอักเสบ เหมาะสำหรับรับประทานหลังอาหารหรือต้มดื่ม

12. มะระขี้นก

ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ต้านอนุมูลอิสระ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการคุมระดับน้ำตาล

13. กระเทียม

ช่วยต้านแบคทีเรีย ลดไขมันในเลือด บำรุงหัวใจ เหมาะสำหรับใช้ประกอบอาหารหรือกินสดเล็กน้อย

14. หอมแดง

แก้หวัด ลดไข้ บรรเทาอาการคัดจมูก เหมาะสำหรับใช้ประคบร่วมกับสมุนไพรอื่น

15. ว่านหางจระเข้

บรรเทาแผลไหม้แดด เพิ่มความชุ่มชื้น ลดการอักเสบของผิว เหมาะสำหรับทาบำรุงผิวหรือวางบนแผลผิวหนังร้อน

16. พริกไทยดำ

ช่วยกระตุ้นระบบเผาผลาญ ช่วยย่อยอาหาร เหมาะสำหรับผสมเครื่องดื่มหรือใช้ในการปรุงอาหาร

17. ใบเตย

ลดความดัน ช่วยขับปัสสาวะ ผ่อนคลาย เหมาะสำหรับต้มเป็นน้ำดื่มแทนน้ำชา

18. ชะเอมเทศ

แก้ไอ ลดเจ็บคอ และช่วยลดการระคายเคืองในลำคอ เหมาะสำหรับชงดื่มหรือใช้ในยาสมุนไพร

19. มะกรูด (ทั้งเปลือกและรูปแบบผล)

บำรุงเส้นผม ลดรังแค ลดความมันบนหนังศีรษะ เหมาะสำหรับหมักผมหรือต้มใช้น้ำล้างผม

20. การบูร

บรรเทาปวดเมื่อย ปวดศีรษะ คลายเส้น และช่วยให้หายใจโล่งเหมาะสำหรับใช้ทานวด หรือสูดดมบรรเทาอาการต่าง ๆ

อ่านบทความที่น่าสนใจต่อได้ที่ : เมนูสมุนไพรบำรุงหัวใจ อร่อยได้สุขภาพแถมดีต่อร่างกาย

ประโยชน์ทางสุขภาพจากสมุนไพรไทย

สมุนไพรไทยได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในทรัพยากรธรรมชาติที่ช่วยดูแลสุขภาพได้อย่างครอบคลุมและอ่อนโยน ด้วยคุณสมบัติจากพืชที่มีสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพหลากหลายชนิด จึงช่วยบรรเทาอาการเจ็บป่วยเบื้องต้น เสริมระบบต่าง ๆ ของร่างกาย และช่วยป้องกันโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ด้านล่างนี้คือประโยชน์เด่น ๆ ที่คนไทยอาจมองข้าม ทั้งที่เป็นสิ่งที่ทำให้ สมุนไพรไทย มีคุณค่าต่อสุขภาพมากกว่าที่คิด

  • สมุนไพรไทยช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน:หลายชนิด เช่น มะขามป้อม ขิง ฟ้าทะลายโจร และขมิ้นชัน มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ช่วยเสริมการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้ร่างกายต่อสู้กับเชื้อโรคได้ดียิ่งขึ้น
  • ช่วยลดการอักเสบตามธรรมชาติ:สมุนไพรไทยหลายชนิดมีฤทธิ์ต้านการอักเสบ เช่น ขมิ้นชัน ไพล กระชาย และข่า ซึ่งช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อย อาการอักเสบของกล้ามเนื้อ หรือภาวะลำไส้อักเสบในระดับอ่อน ๆ
  • ส่งเสริมระบบย่อยอาหาร: สมุนไพรอย่างขิง ตะไคร้ กะเพรา และใบโหระพา ช่วยขับลม ลดท้องอืด เร่งการย่อยอาหาร และผ่อนคลายกล้ามเนื้อในระบบทางเดินอาหาร เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาท้องแน่นเป็นประจำ
  • บำรุงผิวและเส้นผม: ว่านหางจระเข้และมะกรูดมีบทบาทสำคัญในการบำรุงผิว ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น ลดการอักเสบของผิวหนัง และบำรุงรากผมให้แข็งแรง
  • ลดระดับน้ำตาลและไขมันในเลือด: สมุนไพรบางชนิด เช่น มะระขี้นก กระเทียม และพริกไทยดำ มีงานวิจัยรองรับว่าสามารถช่วยควบคุมน้ำตาลและลดไขมันในเลือดได้
  • ผ่อนคลาย ลดความเครียด: สมุนไพรอย่างใบเตย ตะไคร้ และโหระพามีกลิ่นหอมช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย ลดความวิตกกังวลได้

วิธีใช้สมุนไพรไทยให้เกิดประโยชน์

1.ใช้แบบสด

  • เหมาะกับ: สมุนไพรที่ช่วยย่อย ขับลม หรือมีฤทธิ์ร้อนอ่อน ๆ เช่น ขิง กระชาย กะเพรา
  • วิธีใช้: นำมาปรุงอาหาร ทานสดเล็กน้อย หรือหั่นบาง ๆ ชงน้ำร้อน

2.ต้มดื่มหรือชงชา

  • เหมาะกับ: สมุนไพรที่มีน้ำมันหอมระเหยหรือสรรพคุณเด่น เช่น ตะไคร้ ใบเตย ขมิ้นชัน ฟ้าทะลายโจร
  • วิธีใช้: ต้มน้ำ 5–10 นาที และดื่มขณะอุ่นเพื่อให้สารสำคัญออกมามากที่สุด

3.ใช้ทาภายนอก

  • เหมาะกับ: บรรเทาปวดเมื่อย ลดอักเสบ หรือดูแลผิว เช่น ไพล ว่านหางจระเข้ น้ำมันสมุนไพร
  • วิธีใช้: ทาหรือประคบเฉพาะบริเวณที่ต้องการ และทดสอบการแพ้ก่อนใช้ทุกครั้ง

4.ใช้ในอาหาร

  • เหมาะกับ: สมุนไพรไทยหลายชนิดให้ทั้งรสชาติและคุณค่าทางยา เช่น ข่า ขิง ตะไคร้ ใบมะกรูด
  • วิธีใช้: ใส่ในอาหารเพียงเล็กน้อยก็ช่วยให้ระบบย่อยอาหารดีขึ้น

5.ใช้ในรูปแบบสกัดหรือแคปซูล

  • เหมาะกับ: ผู้ที่ต้องการปริมาณสารสำคัญคงที่ เช่น ฟ้าทะลายโจร ขมิ้นชัน มะขามป้อม
  • วิธีใช้: เลือกผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐาน และรับประทานตามคำแนะนำบนฉลากหรือแพทย์

ข้อควรระวังในการใช้สมุนไพรไทย

ข้อควรระวังในการใช้สมุนไพรไทย

แม้สมุนไพรไทยจะถือเป็นทางเลือกที่ปลอดภัย และอ่อนโยนกว่ายาเคมี แต่ก็ไม่ใช่ว่าใช้ได้อย่างไม่จำกัด เพราะสมุนไพรหลายชนิดมีฤทธิ์ทางยาเช่นเดียวกับยาแผนปัจจุบัน หากใช้ผิดวิธีอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงหรือกระทบต่อสุขภาพได้ ผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรไทยแนะนำว่า การใช้สมุนไพรให้ได้ผลดีต้องควบคู่กับ “ความเข้าใจ” และ “ความเหมาะสม” เพื่อไม่ให้กลายเป็นโทษต่อร่างกาย

  • ห้ามใช้เกินปริมาณ: การใช้สมุนไพรเกินความจำเป็น เช่น การกินมากเกินไปหรือใช้ถี่เกินไป อาจทำให้เกิดอาการไม่พึงประสงค์ เช่น ปวดท้อง ท้องเสีย ร้อนใน ใจสั่น ระคายเคืองกระเพาะ และอาการแพ้
  • เด็กเล็ก หญิงตั้งครรภ์ ผู้ป่วยเรื้อรังต้องระวัง: กลุ่มเสี่ยงเหล่านี้ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะร่างกายตอบสนองต่อสมุนไพรแตกต่างจากคนทั่วไป
  • ต้องใช้สมุนไพรที่สะอาดและได้มาตรฐาน: คุณภาพของสมุนไพรเป็นสิ่งสำคัญ เพราะสมุนไพรที่มีสารตกค้าง หรือผ่านการผลิตที่ไม่ได้มาตรฐานอาจทำให้เกิดอันตรายได้ เช่น สารเคมีตกค้างจากการปลูก เชื้อรา หรือความชื้น สิ่งปลอมปนในผลิตภัณฑ์แปรรูป และการปนเปื้อนโลหะหนัก

วิธีเลือกซื้อสมุนไพรไทยให้ได้คุณภาพ

การเลือกซื้อสมุนไพรไทยให้ได้คุณภาพ คือกุญแจสำคัญที่จะทำให้คุณได้รับสรรพคุณตามธรรมชาติอย่างเต็มที่ และปลอดภัยจากการปนเปื้อนหรือสารตกค้างที่อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพได้ ผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรไทยแนะนำว่าไม่ว่าจะเป็นสมุนไพรสด สมุนไพรแห้ง หรือผลิตภัณฑ์แปรรูป ควรคัดเลือกอย่างละเอียดถี่ถ้วนเสมอ เนื่องจากคุณภาพมีผลโดยตรงต่อประสิทธิภาพของสมุนไพรแต่ละชนิด

เลือกผู้ผลิตที่ผ่านมาตรฐาน GMP หรือ อย.

สำหรับสมุนไพรไทยที่ผ่านการแปรรูป เช่น แคปซูล ผงชงดื่ม น้ำมันสมุนไพร ยาหม่อง หรือผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทยสำเร็จรูป ควรเลือกจากผู้ผลิตที่มีมาตรฐานรับรอง เพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภค มาตรฐานที่ควรตรวจสอบได้แก่:

  • อย. (สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา): เพื่อยืนยันว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัยและผ่านการตรวจสอบเบื้องต้น
  • GMP (Good Manufacturing Practice):เพื่อรับรองกระบวนการผลิตที่สะอาด ถูกต้อง ปลอดภัย
  • ฉลากชัดเจนและระบุส่วนประกอบครบถ้วน: เช่น ปริมาณการใช้ วันผลิต วันหมดอายุ และคำเตือน

หากคุณสนใจ ยาแคปซูลสมุนไพร เรามีสินค้าพร้อมจำหน่าย และยินดีให้คำแนะนำเพิ่มเติม

สรุป สมุนไพรไทย ประจำบ้านที่ควรมีติดไว้

สมุนไพรไทย คือภูมิปัญญาทางธรรมชาติที่อยู่คู่คนไทยมานาน และยังคงมีบทบาทสำคัญในการดูแลสุขภาพของครอบครัวในยุคปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นการใช้เพื่อบรรเทาอาการเจ็บป่วยเบื้องต้น ช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานดีขึ้น ลดการอักเสบ หรือเสริมภูมิคุ้มกัน สมุนไพรไทยก็ยังคงเป็นตัวช่วยที่เชื่อถือได้และปลอดภัย

สิ่งสำคัญคือ สมุนไพรไทยใช้งานง่าย ราคาไม่แพง และเข้าถึงได้ทุกครัวเรือน ทั้งในรูปแบบสด ต้มดื่ม ชงชา ใช้ประกอบอาหาร หรือนำไปทำยาทา ยานวด ช่วยให้คุณดูแลสุขภาพในชีวิตประจำวันได้แบบธรรมชาติ โดยไม่ต้องพึ่งยาเคมีตลอดเวลา ด้วยประโยชน์หลากหลายจาก สมุนไพรไทย 20 ชนิด ที่เราแนะนำไปก่อนหน้านี้ ทุกบ้านสามารถเลือกเก็บไว้ใช้ตามความเหมาะสม เช่น ไพลสำหรับปวดเมื่อย ขิงสำหรับท้องอืด ใบเตยเพื่อผ่อนคลาย หรือว่านหางจระเข้สำหรับดูแลผิว

หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพและสมุนไพรประจำบ้านที่ควรมีติดไว้ Hamar รวบรวมความรู้และผลิตภัณฑ์ เพื่อสุขภาพที่คุณไว้วางใจ

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับสมุนไพรไทย

หากลูกค้าท่านใดมีความสงสัยเกี่ยวกับ “สมุนไพรไทย” เรารวบรวมทุกคำตอบมาให้แล้วที่นี่

Q: สมุนไพรไทย มีอะไรบ้างที่ควรมีติดบ้าน?

A: สมุนไพรไทยที่ควรมีติดบ้าน ได้แก่ ขิง ข่า ตะไคร้ ไพล ใบมะกรูด กะเพรา ฟ้าทะลายโจร หอมแดง ว่านหางจระเข้ และน้ำมันสมุนไพรพื้นบ้าน สมุนไพรเหล่านี้ใช้งานได้หลากหลาย ทั้งช่วยย่อยอาหาร ขับลม ลดไข้ คลายเส้น หรือใช้บรรเทาอาการปวดเมื่อยในชีวิตประจำวัน

Q: สมุนไพรไทย 20 ชนิด มีประโยชน์อะไรบ้าง?

A: สมุนไพรไทย 20 ชนิด ที่นิยมใช้กันทั่วไปมีประโยชน์หลากหลาย เช่น

  • ช่วยระบบย่อยอาหาร: ขิง ตะไคร้ กะเพรา ใบโหระพา
  • ต้านการอักเสบและปวดเมื่อย: ไพล ขมิ้นชัน น้ำมันสมุนไพร
  • เสริมภูมิคุ้มกัน: มะขามป้อม ฟ้าทะลายโจร
  • ลดระดับน้ำตาลและไขมัน: มะระขี้นก กระเทียม พริกไทยดำ
  • บำรุงผิวและผม: ว่านหางจระเข้ มะกรูด

สมุนไพรเหล่านี้เป็นตัวช่วยพื้นฐานที่ตอบโจทย์อาการเจ็บป่วยเล็กน้อยได้หลากหลาย ครอบคลุมทั้งภายในและภายนอก

Q: สมุนไพรไทย สรรพคุณ ใช้แทนยาได้ไหม?

A: สมุนไพรไทยสามารถใช้เพื่อ บรรเทาอาการเบื้องต้น เช่น ท้องอืด ไอ เจ็บคอ ปวดเมื่อย หรือผื่นเล็กน้อยได้ดี แต่ ไม่ควรใช้แทนยาแผนปัจจุบัน โดยเฉพาะในโรคที่มีอาการรุนแรง โรคเรื้อรัง หรือกรณีที่ต้องการการรักษาเฉพาะทาง ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่า

  • ใช้สมุนไพรไทยเพื่อ “ดูแลสุขภาพ” และ “ลดอาการเบื้องต้น”
  • หากอาการไม่ดีขึ้นภายใน 2–3 วัน หรือมีความรุนแรง ควรพบแพทย์ทันที
  • เลือกใช้สมุนไพรที่ได้มาตรฐานเพื่อให้ปลอดภัยและได้ประสิทธิภาพสูงสุด
คลิกเลือกอ่านหัวข้อ
แบ่งปันสาระน่ารู้ทาง :

ผลิตภัณฑ์ของเรา

ยาหอมสมุนไพรเทพจิตรตราห้าม้าสรรพคุณแก้ลมบำรุงหัวใจ ขนาด 30 เม็ด
แก้ลม บำรุงหัวใจ

ยาหอมเทพจิตร ตราห้าม้า บรรจุ 30 เม็ด (24 หลอด/แพ็ค)

ยาดมสมุนไพรไทยตราแม่กุหลาบห้าม้าสรรพคุณแก้ลมวิงเวียน ขนาด 15 กรัม
แก้ลมวิงเวียน

ยาดมสมุนไพร ตราแม่กุหลาบห้าม้า ขนาด 15 กรัม

น้ำมันนวดสมุนไพรเสลดพังพอนตราแม่กุหลาบสรรพคุณบรรเทาแมลงกัดต่อย ขนาด 20 ซีซี
บรรเทาอาการแมลงกัดต่อย

ยาน้ำมันสมุนไพรผสมเสลดพังพอน ตราแม่กุหลาบ ขนาด 20 ซีซี

น้ำมันตราเลียงผาเเม่กุหลาบสรรพคุณคลายเส้น ขนาด 20 ซีซี
บรรเทาอาการปวดเมื่อยตามร่างกาย

ยาน้ำมันตราเลียงผา เเม่กุหลาบ ขนาด 20 ซีซี

สาระน่ารู้ที่น่าสนใจ

อาการบ้านหมุน เวียนหัว พะอืดพะอม เกิดจากอะไร? รวมวิธีบรรเทาและดูแลตัวเองเบื้องต้น

เปรียบเทียบยาครีมแก้ปวดเมื่อย สูตรเย็น VS สูตรร้อน เลือกแบบไหนให้เหมาะกับอาการ

รู้จัก กระชายขาว สมุนไพรไทยสารพัดประโยชน์ พร้อมสรรพคุณดีต่อสุขภาพ