การบูรและพิมเสนเป็นสมุนไพรที่คนไทยรู้จักชื่อและใช้กันมาอย่างยาวนาน แม้ว่าทั้งสองจะดูเหมือน ๆ กัน แต่ก็มีความแตกต่างกันในหลายด้าน ทั้งในเรื่องของต้นกำเนิด สรรพคุณ และวิธีการใช้ ดังนั้นในบทความนี้เราจะพาคุณมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับความแตกต่างระหว่างการบูรและพิมเสนกัน!
ความแตกต่างระหว่างการบูรและพิมเสน
แหล่งที่มา
ความแตกต่างอย่างแรกเลยก็คือ การบูรเป็นสารบริสุทธิ์ที่สกัดมาจากต้นการบูรทั้งต้น มักอยู่ตามรอยแตกของเนื้อไม้ ซึ่งส่วนที่อยู่ใกล้โคนต้นจะมีการบูรมากกว่าส่วนที่อยู่สูงขึ้นมา ในขณะที่พิมเสน หรือ น้ำมันพิมเสนได้มาจากการต้มเคี่ยว หรือ กลั่น ต้น กิ่ง และ ใบต้นพิมเสน
รูปร่างลักษณะ
ถ้าให้มองไกล ๆ อาจจะแยกลักษณะของการบูรและพิมเสนยาก แต่จริง ๆ แล้วทั้งสองนั้นมีลักษณะที่แตกต่างกันและพอทำให้แยกออกได้ นั่นก็คือ การบูรจะมีผลึกที่ละเอียดกว่า และอาจมีลักษณะเป็นก้อนหรือร่วนเป็นผงกว่า รวมถึงสามารถระเหิดได้ ส่วนพิมเสนนั้นจะมีเกล็ดสีขาวที่ขุ่นกว่า มีความละเอียดน้อยกว่า และถ้าหากเป็นพิมเสนบริสุทธิ์ จะมีลักษณะเป็นแผ่นผลึกหกเหลี่ยม รวมถึงระเหิดช้า
ด้านกลิ่นและความรู้สึก
การบูรมีกลิ่นที่ชัดและเฉพาะตัว เมื่อสูดดมจะให้ความรู้สึกสดชื่นตื่นตัว มีความรู้สึกเย็นฉ่ำ ส่วนพิมเสน ให้กลิ่นที่อ่อนโยนกว่าและหอมเย็นสดชื่น ความรู้สึกเมื่อใช้จะเบาและสบายกว่า
ด้านสรรพคุณและการใช้งาน
โดยทั่วไปแล้วทั้งการบูรและพิมเสนจะไม่ได้แตกต่างในเรื่องสรรพคุณหรือการใช้งานมากนัก เพราะทั้งสองมักถูกนำไปใช้ในยาดม ยาน้ำมัน หรือยาหม่อง เพื่อช่วยบรรเทาอาการวิงเวียน คัดจมูก หรือใช้ทาภายนอกเพื่อแก้อาการบวมเคล็ดขัดยอก แก้พิษแมลงกัดต่อย แต่การบูรนั้นจะมีฤทธิ์เป็นยาชาอ่อน ๆ จึงนำมาใช้เป็นยาชาเฉพาะที่ได้ด้วย
สรุป
การบูรและพิมเสนเป็นสมุนไพรไทยที่มีคุณค่าและมีประโยชน์ต่อสุขภาพ การเลือกใช้ระหว่างการบูรและพิมเสนควรพิจารณาจากความต้องการ อาการที่ต้องการบรรเทา และความเหมาะสมกับตัวเอง การเข้าใจความแตกต่างจะช่วยให้คุณเลือกใช้ผลิตภัณฑ์สมุนไพรได้อย่างเหมาะสมและได้ประโยชน์สูงสุด
และถ้าหากใครที่อยากได้ผลิตภัณฑ์สมุนไพรเพื่อนำมาใช้บรรเทาอาการในชีวิตประจำวัน “ห้าม้าโอสถ” เป็นอีกแบรนด์หนึ่งที่รวบรวมผลิตภัณฑ์ที่ทำจากสมุนไพรไทยอย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นยาน้ำมันตราแม่กุหลาบ ยาหอมเทพจิตรตราห้าม้า และอื่น ๆ อีกมากมาย สามารถเลือกใช้ได้ตามความต้องการเลยทีเดียว!

